นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในพิธีรับมอบผลงานศิลปะ วิถีแห่งธรรม 2566 Vision of Dharma 2023 ของ ดร.กมล ทัศนาญชลี ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรมและสื่อผสม) ประจำปี พ.ศ. 2540 โดยมีนายจีระวัฒน์ ลีนะกนิษฐ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นางสาวเพ็ญพิสุทธิ์ จินตโสภณ เลขานุการ รมว.วัฒนธรรม นางยุถิกา อิศรางกูร ณ อยุธยา รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ผู้แทนปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นายประสพ เรียงเงิน ผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย นางเกษร กำเหนิดเพ็ชร รองผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย นายสุพจน์ ธีรเกาศัลย์ อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำสหพันธรัฐรัสเซีย
พร้อมด้วย ศิลปินแห่งชาติสาขาต่างๆ ได้แก่ นางสาววนิดา พึ่งสุนทร ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะสถาปัตยกรรม (แบบประเพณี) ประจำปีพุทธศักราช 2546 นายเดชา วราชุน ศิลปินแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ.2550 สาขาทัศนศิลป์ (ภาพพิมพ์และสื่อผสม) นายปัญญา วิจินธนสาร ศิลปินแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ.2557 สาขาทัศนศิลป์(จิตรกรรม) นายชาตรี ลดาลลิตสกุล ศิลปินแห่งชาติประจำปี พ.ศ. 2562 สาขาทัศนศิลป์ (สถาปัตยกรรม) นายสิงห์คม บริสุทธิ์ ศิลปินแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ. 2562 สาขาทัศนศิลป์ (ภาพถ่าย) นายวินัย พันธุรักษ์ ศิลปินแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ. 2562 สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทยสากล - ขับร้อง) นางสุดา ชื่นบาน ศิลปินแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ. 2563 สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทยสากล - ขับร้อง) พร้อมทั้งข้าราชการ แขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชนร่วมในพิธี ณ โถง ชั้น 1 อาคารหอศิลป์แห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม
นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า ดร.กมล ทัศนาญชลี ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ ประจำปี พ.ศ. 2540 ได้สั่งสมประสบการณ์ในงานศิลปะอันเป็นเอกลักษณ์สร้างชื่อเสียงให้ประจักษ์ จนเป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศมาอย่างยาวนาน ในโอกาสที่ท่านได้เดินทางกลับมาจัดแสดงนิทรรศการผลงานศิลปะ 80 ปี กมล ทัศนาญชลี ศิลปินแห่งชาติ ในสถานที่สำคัญๆ หลายแห่ง รวมถึงหอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน และ หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม 2567 เพื่อสร้างคุณประโยชน์ให้แก่วงการศิลปะของประเทศไทย โดยได้มอบผลงานศิลปะ Masterpiece “วิถีแห่งธรรม 2566” (Vision of Dharma 2023) แก่วธ. ภายใต้การดูแลของสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย ตนในนาม วธ. ขอแสดงความขอบคุณและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ท่านศิลปินแห่งชาติได้ให้เกียรติกระทรวงวัฒนธรรม เป็นผู้ดูแลรักษาผลงานประติมากรรมชิ้นเอกนี้ให้คงคุณค่าเป็นสมบัติแห่งแผ่นดินไทยสืบไป
“ที่ผ่านมาวธ. ได้ผลักดันและขับเคลื่อนนโยบาย Soft Power ของรัฐบาล โดยดำเนินโครงการสนับสนุนและส่งเสริมด้านศิลปวัฒนธรรมมากมายทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งงานประติมากรรมสื่อผสมชุด“วิถีแห่งธรรม 2566”( Vision of Dharma 2023)” เป็นอีกหนึ่งใน Soft Power ที่ช่วยขับเคลื่อนด้านการเปิดพื้นที่และเปิดโอกาสให้เกิดการสร้างสรรค์ งานศิลปะที่จะร่วมสร้างให้เป็นแลนด์มาร์กของหอศิลป์แห่งชาติต่อไป” นายเสริมศักดิ์ กล่าว
ดร.กมล ทัศนาญชลี ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ ประจำปี พ.ศ.2540 กล่าวว่า ตนได้ทำงานศิลปะมาอย่างต่อเนื่อง และมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ในสองซีกโลก ทั้งโลกตะวันออกและโลกตะวันตก ในปีนี้ได้เดินทางกลับมายังประเทศไทย เพื่อจัดแสดงนิทรรศการ 80 ปี กมล ทัศนาญชลี ศิลปินแห่งชาติ โดยได้นำผลงานชิ้นที่ใหญ่ที่สุดในนิทรรศการครั้งนี้ ซึ่งเป็นการจำลองรอยพระพุทธบาทในยุคสมัยของตน สร้างขึ้นจากวัสดุร่วมสมัย ได้แก่ สแตนเลส เซรามิก หิน แก้ว ทองแดงและทองเหลือง มีแนวคิดเกี่ยวกับธรรมะ เช่นเดียวกันกับคอนเซ็ปต์ของการแสดงงาน Two Vision of the Dharma ที่เคยสร้างสรรค์ร่วมกับอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี เมื่อครั้งจัดแสดงที่ Stanford Museum
ผลงานชิ้นนี้ชื่อ “วิถีแห่งธรรม 2566” ( Vision of Dharma 2023) เป็นงานประติมากรรมสื่อผสม ที่สื่อสารเรื่องราวธรรมะและรากเหง้าทางศิลปวัฒนธรรม ในรูปแบบประติมากรรมร่วมสมัยเป็นการเปิดมุมมองของการชมงานศิลปะแบบ 360 องศา ที่เปิดโอกาสให้ผู้ชมได้ใกล้ชิดงานศิลปะและสามารถเดินลอดใต้รอยพระพุทธบาทจำลองได้ ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นที่ใดมาก่อน รวมถึงการถ่ายทอดเรื่องราวของธรรมชาติและธาตุทั้ง 4 ดิน น้ำ ลม ไฟ ผ่านงานประติมากรรมชิ้นนี้ ให้ทำหน้าที่สื่อสารโดยตรงกับผู้ชม ทั้งในช่วงเวลากลางวันโดยผ่านเงาสะท้อนจากลำแสง แห่งพระอาทิตย์ และจะเป็นสีสันบรรยากาศที่โดดเด่นในยามค่ำคืนให้แก่อาคารหอศิลป์แห่งชาติ โดยการประดับตกแต่งด้วยแสงไฟ
ทั้งนี้ ได้มอบผลงานชิ้นนี้ให้กับกระทรวงวัฒนธรรม โดยสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยเป็นผู้ดูแล ติดตั้งและ จัดแสดงถาวร ณ บริเวณด้านหน้าอาคารหอศิลป์แห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งผลงานชิ้นนี้จะเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ในย่านใจกลางกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นการเติมความสุขใจด้วยงานศิลปะร่วมสมัยให้แก่ผู้ที่มาติดต่อราชการและผู้ที่สัญจรไปมาบนถนนเทียมร่วมมิตร ที่สำคัญยังเป็นโอกาสอันงดงามที่ผมได้ตอบแทนคุณของประเทศชาติ ด้วยการมอบงานศิลปะชิ้นเอกให้เป็นสมบัติแห่งแผ่นดินไทยและเพื่อให้เกิดประโยชน์อย่างยั่งยืน แก่วงการศิลปะร่วมสมัยของประเทศไทย