เกษตรฯเผยตัวเลข ไม้ผลภาคใต้ ปีนี้ 14 จว. รวม 9.3 แสนตัน เพิ่มขึ้น ร้อยละ 84 ผลผลิตเริ่มออกสู่ตลาด มิ.ย. นี้

นายนิกร  แสงเกตุ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 8 สุราษฎร์ธานี (สศท.8) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงการจัดทำข้อมูลปริมาณการผลิตไม้ผลภาคใต้ ปี 2566 ครั้งที่ 1 (ข้อมูล ณ มีนาคม 2566) รวม 14 จังหวัด ได้แก่ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช กระบี่ พังงา ระนอง ภูเก็ต ตรัง พัทลุง สงขลา สตูล ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส 


โดย สศท.8 สศท.9 และสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 5 สงขลา (สสก.5) ร่วมกับคณะทำงานย่อยเพื่อพัฒนาระบบข้อมูลและโลจิสติกส์ภาคใต้ พิจารณาผลพยากรณ์ไม้ผลภาคใต้ของสินค้า 4 ชนิด ได้แก่ ทุเรียน มังคุด เงาะ และลองกอง คาดว่า มีผลผลิตรวม 931,590 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ที่มีจำนวน 505,642 ตัน (เพิ่มขึ้น 425,948 ตัน หรือคิดเป็น ร้อยละ 84) ด้านปริมาณผลผลิตของไม้ผลทั้ง 4 ชนิด คาดว่า ทุเรียน มีจำนวน 716,902 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 60 มังคุด มีจำนวน 127,551 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 357 เงาะ มีจำนวน 51,382 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 91 และลองกอง มีจำนวน 35,755 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 1,636 ซึ่งภาพรวมผลผลิตของไม้ผลทั้ง 4 ชนิด เพิ่มขึ้น เนื่องจาก สภาพอากาศเอื้ออำนวย สภาพต้นสมบูรณ์ ทำให้การออกดอกดีกว่าปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ ผลผลิตในฤดูของไม้ผลทั้ง 4 ชนิด จะออกสู่ตลาดช่วงเดือนมิถุนายน และจะออกต่อเนื่องจนถึงเดือนตุลาคม 2566 โดยผลผลิตจะออกมากที่สุดช่วงเดือนกรกฎาคม 2566 อย่างไรก็ตาม ไม้ผลทั้ง 4 ชนิด มีทั้งในฤดูและนอกฤดู ขณะนี้ได้เริ่มทยอยออกตลาดแล้ว   


สำหรับเนื้อที่ยืนต้น ของไม้ผลทั้ง 4 ชนิด มีจำนวน 1,139,056 ไร่ ภาพรวมเพิ่มขึ้นจากปี 2565 ที่มีจำนวน 1,113,454 ไร่ (เพิ่มขึ้น 25,602 ไร่ หรือร้อยละ 2) โดยทุเรียน เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 เนื่องจากราคาอยู่ในเกณฑ์ดีต่อเนื่อง ส่งผลให้เกษตรกรปลูกทุเรียนเพิ่มขึ้น โดยมีการปลูกทุเรียนทดแทนกาแฟ ยางพารา และปลูกเพิ่มในพื้นที่ว่าง ขณะที่ลองกอง ลดลงร้อยละ 11 เงาะ ลดลงร้อยละ 7 และมังคุด ลดลงร้อยละ 2 ด้านเนื้อที่ให้ผล มีจำนวน 948,949 ไร่ ภาพรวมเพิ่มขึ้นจากปี 2565 ที่มีจำนวน 930,354 ไร่ (เพิ่มขึ้น 18,595 ไร่ หรือร้อยละ 2) โดยทุเรียน เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 ขณะที่ลองกอง ลดลงร้อยละ 11 เงาะ ลดลงร้อยละ 7 และ มังคุด ลดลงร้อยละ 1 เนื่องจากเกษตรกรโค่นต้นเงาะ มังคุด และลองกอง เพื่อปรับเปลี่ยนไปปลูกทุเรียนซึ่งให้ผลตอบแทนดีกว่า             


ขณะนี้ ทุเรียน ออกดอกแล้วร้อยละ 65 ส่วนใหญ่อยู่ในระยะหางแย้ เกษตรกรเริ่มทยอยเก็บเกี่ยวผลผลิตตั้งแต่เดือนมกราคม 2566 เป็นต้นไป โดยทุเรียนจะออกสู่ตลาดมากที่สุดช่วงเดือนกรกฎาคม 2566 ร้อยละ 32 ของผลผลิตทั้งหมด มังคุด ออกดอกแล้ว ร้อยละ 53 ส่วนใหญ่อยู่ในระยะติดผลอ่อน เริ่มทยอยเก็บเกี่ยวผลผลิตตั้งแต่เดือนมกราคม จนถึงเดือน ธันวาคม 2566 โดยมังคุดจะออกสู่ตลาดมากที่สุดช่วงเดือนมิถุนายน และกรกฎาคม 2566 เดือนละร้อยละ 35 ของผลผลิตทั้งหมด เงาะ ออกดอกแล้ว ร้อยละ 55 ส่วนใหญ่อยู่ในระยะดอกบาน เริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตตั้งแต่เดือนมกราคม จนถึงเดือนมีนาคม 2566  และเดือนมิถุนายนถึงเดือนธันวาคม 2566 ผลผลิตจะออกมากช่วงเดือนกรกฎาคม 2566 โดยเงาะจะออกสู่ตลาดมากที่สุดช่วงเดือนกรกฎาคม 2566 ร้อยละ 45 ของผลผลิตทั้งหมด และลองกอง ออกดอกบ้างเล็กน้อย ร้อยละ 12 อยู่ในระยะช่อดอก นับว่าใกล้เคียงกับปีที่แล้ว คาดว่าจะมีการออกดอกเพิ่มเติมในช่วงปลายเมษายน ถึงต้นพฤษภาคม 2566 เนื่องจากช่วงระยะเวลาแล้งเอื้อต่อการออกดอกคาดว่าจะทยอยเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคม 2566 และเดือนมิถุนายนถึงเดือนพฤศจิกายน 2566 ผลผลิตจะออกมากช่วงเดือนกันยายน 2566 ร้อยละ 57 ของผลผลิตทั้งหมด


สำหรับแนวทางการบริหารจัดการผลไม้ภาคใต้ จะยึดหลัดการบริหารจัดการผลไม้ ปี 2565 - 2566 คือ “มีข้อมูลการผลิตที่ชัดเจน เพื่อเชื่อมโยงกับตลาดผู้ซื้ออย่างรวดเร็วด้วยช่องทางการค้าออนไลน์อย่างเหมาะสม” โดยมุ่งเน้น 1) การบริหารจัดการเชิงคุณภาพ จัดทำแผนบริหารจัดการผลไม้ระดับจังหวัด การพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานของผลไม้ การสร้างมูลค่าเพิ่มของผลไม้ตลอดฤดูกาลผลิตจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายในจังหวัด 2) การบริหารจัดการเชิงปริมาณ มุ่งเน้นการบริหารจัดการจัดสมดุลอุปสงค์ อุปทาน จัดทำข้อมูลความต้องการตลาด และปรับสมดุลข้อมูลของอุปสงค์และอุปทาน เชื่อมโยงข้อมูลประมาณการผลผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการทางการตลาดของผลไม้แต่ละชนิด และ 3) จัดเตรียมเหตุรองรับปริมาณผลผลิตในช่วงที่ผลไม้ออกมาก อย่างไรก็ตาม อาจเกิดความแปรปวนของสภาพอากาศ ซึ่งอาจส่งผลให้ปริมาณผลผลิตไม้ผลเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งสศท.8 และ สศท.9 จะได้ติดตามสถานการณ์โดยร่วมกับคณะทำงานย่อยเพื่อพัฒนาระบบข้อมูลและโลจิสติกส์ภาคใต้อย่างใกล้ชิดต่อไป 

Post a Comment (0)
Previous Post Next Post